คชานนํ ภูตคณาทิเสวิตํ กปิตฺถชมฺพูผลจารุภกฺษณมฺ |
อุมาสุตํ โศกวินาศการกํ นมามิ วิฆฺเนศฺวรปาทปงฺกชมฺ ||

ข้าฯขอไหว้โอรสพระอุมา ผู้มีพระพักตร์เป็นช้าง ที่พวกหมู่ภูตเป็นต้น คอยถวายการรับใช้ อาหารที่พระองค์ชื่นชอบ คือผลมะขวิดและหว้าพระองค์เป็นผู้ทำลายความทุกข์ความโศกข้าฯขอ ไหว้พระบาทที่เหมือนดอกบัวของเทพ เป็นผู้มีอำนาจเหนืออุปสรรค องค์นั้น

คนอินเดียส่วนใหญ่จะรู้จักเทพองค์นี้ในนามว่า คเณศ ซึ่งแปลว่า “นายของพวกคณะซึ่งเป็นบริวารของ พระศิวะ”
พระนามที่สำคัญของพระคเณศ คือ พิฆเนศวร “เจ้าผู้มีอำนาจเหนืออุปสรรค” คณปติ “นายของพวกคณะ” 
กำเนิด ของพระคเณศ คัมภีร์ต่างๆ กล่าวไว้ต่างๆกัน จะยกมาจากคัมภีร์ศิวปุราณะ รุทรสังหิตาที่ 2 ส่วนที่
4 กุมารขัณฑะ อัธยาย ที่ 13-20: ซึ่งกล่าวไว้ดังนี้

ขณะที่พระปารวตีชายาพระศิวะ กำลังสรงน้ำอยู่ พระศิวะได้เสด็จมายังที่ประทับของพระนาง พระนาง ทรงเห็น
ว่าพระศิวะเสด็จมาในเวลาอันไม่สมควร จึงทรงคิดที่จะสร้างคนรับใช้ไว้คอยเฝ้าดูแลทุกขณะ เมื่อคิดดัง นี้
พระนางจึงใช้ ขี้ไคลจากสรีระของพระนางสร้างบุคคลที่เพียบพร้อมไปด้วยความงามและลักษณะที่ดีทุก
ประการขึ้นมา คนหนึ่ง เขามีร่างใหญ่โตมีพละกำลัง เก่งกล้า และ สง่างาม เมื่อสร้างเขาขึ้นมา พระนางถือ
ว่าเขาเป็นโอรส มอบเครื่องประดับต่างๆ ให้แก่เขาและมอบกระบองให้เป็นอาวุธ และได้สั่งให้ทำหน้า ที่เป็น
คนเฝ้าประตูและห้ามใครเข้าไปพบพระนางโดยเด็ดขาด หากพระนางไม่อนุญาต เมื่อพระศิวะเสด็จมาถึง
และจะเสด็จเข้าไปข้างในขณะที่นางปารวตีกำลังสรงน้ำอยู่ โอรสนางปารวตีไม่รู้จักว่าพระศิวะว่าเป็นใคร
จึงใช้กระบองตีพระศิวะขับไล่พระศิวะให้ไปจากที่นั่น แม้พระศิวะจะบอกว่าพระองค์เป็นพระสวามีของ
พระนางปารวตี ก็ไม่ฟัง ไล่ตีพระศิวะไม่ยอมหยุด พระศิวะทรงพระพิโรธจึงสั่งให้พวกคณะสอบถาม ว่าเด็กคนนี้
เป็นใคร เมื่อพวกคณะถามโอรสพระนางปารวตีก็เล่าความเป็นมาของตนเองทั้งหมด แม้พวกคณะจะขอให้หลีก
ไปจากประตูเขาก็ไม่ยอมแถมยังด่าว่าเยาะเย้ยพวกคณะต่างๆนานา พวกคณะจึงกลับไปทูลพระศิวะ พระศิวะ
ทรงพระพิโรธจึงทรงบัญชาให้พวกคณะใช้กำลังขับไล่เด็กนั้นไป

เสียงที่โอรสพระนางปารวตีและพวกคณะโต้เถียง และท้าทายกันดังไปถึงพระกรรณของพระนางปารวตี พระนางจึงสั่งให้บริวารไปดูว่าเกิดอะไรขึ้น เมื่อทราบเรื่องที่เกิดขึ้น พระปารวตีได้สั่งให้โอรสของ พระนาง ป้องกันไม่ให้พวกคณะและพระศิวะเข้าไปข้างในจนสุดความสามารถ หลังจากที่ การเจรจาโดยสันติไม่เป็นผล การต่อสู้ระหว่างพวกคณะและโอรสของนางปารวตีจึงเกิดขึ้น พวกคณะสู้ไม่ได้วิ่งกลับไป หาพระศิวะ
พระศิวะจึงทรงบัญชาให้พวกเทวดาที่มีพระอินทร์เป็นหัวหน้าและมีพระสกันทะเป็นแม่ทัพ ของพวกเทวดา ให้ ไป สู้รบ กับโอรสของพระปารวตี พระปารวตีเห็นดังนั้นจึงได้สร้างศักติ (เทพสตรีที่มีพลังอำนาจมาก) ขึ้นมา สององค์เพื่อ ช่วยโอรสของพระนาง พวกเทวดาและพวกคณะไม่สามารถ จะเอาชนะโอรสและศักติทั้งสอง
ได้ ต่างพากันหนีกระเจิดกระเจิง และได้ขอให้พระศิวะสังหารโอรสของ พระนางปารวตีเพื่อเป็นการกู้หน้า พวกเทวดาและพวกคณะไว้ ต่อมาพระศิวะขอความ ร่วมมือจาก พระวิษณุเพื่อช่วยในการสังหาร โอรสของ นางปารวตี โดยพระวิษณุจะต้องใช้กลลวง ในที่สุดพระศิวะก็สามารถใช้ตรีศูลตัดเศียรโอรสของพระนางปารวตี
สำเร็จ เมื่อเห็นโอรสถูกสังหารพระปารวตีทรงพระพิโรธเป็นที่สุด จึงได้สร้างศักติขึ้น นับร้อยๆ องค์ ขึ้นมา สังหารพวกเทวดาและพวกคณะจนทำให้พวกเทวดาเกิดความรู้สึก ว่าพระนางปารวตี กำลังจะทำ ให้ยุคประลัย เกิดขึ้น จึงปรึกษากันว่าจะทำอย่างไรดี และได้ลงความเห็นว่าต้องทำ ฃให้พระนางปารวตี หายพิโรธ พระศิวะ จึงบัญชาให้พวกเทวดาเดินทางไปทางทิศเหนือ

เมื่อพบบุคคลแรกก็ให้ตัดศีรษะของบุคคลนั้นมาเพื่อสรวมแทนศีรษะโอรสพระนางปารวตี พวกเทวดาทำตาม
บัญชา เมื่อเดินทางไปทางทิศเหนือได้พบช้างงาเดียว จึงตัดศีรษะช้าง มาสรวมแทนที่ศีรษะของ โอรสพระ นางปารวตีจากนั้นพระศิวะได้ชุบชีวิตให้และได้พาไปพบพระนางปารวตีพระนางดีพระทัยมากประทานสิทธิ คือ ความสำเร็จให้แก่โอรส ของพระนางและประทานพรให้โอรสของพระนางต้องได้รับการบูชาก่อนเทพองค์อื่นๆ พระศิวะได้รับโอรสของนางปารวตีเป็นโอรสของพระองค์ด้วย และประทานพรให้เป็นผู้ขจัดอุปสรรคทั้งปวงและ
ให้เป็นเทพที่จะต้องได้รับการบูชาก่อนเทพองค์อื่น ถ้าหากบูชาเทพองค์อื่นก่อนไม่ว่าในพิธีใดๆ พิธีนั้นๆจะไม่ มีผลอะไร ทั้งสิ้น เมื่อให้พรดังนี้แล้ว พระศิวะ พระวิษณุ พระพรหมาและเทพองค์อื่นๆ ได้บูชาพระโอรสจากนั้น
พระศิวะได้ตั้งโอรสให้เป็นหัวหน้าพวกคณะ และเนื่องจากพระโอรสเกิดในวันแรม 4 ค่ำของเดือนภาทฺร
(เดือน 9 = คาบเกี่ยวระหว่างเดือนสิงหาคม-กันยายน) การทำพรตบูชาพระคเณศ จะต้องเริ่มที่วันนี้ จึงจะทำให้
ประสบผลสำเร็จทุกอย่าง วันนี้เป็นวันสำคัญทางศาสนาของชาวฮินดู เรียกว่า คเณศจตุรถี


หน้าที่ : 1 | 2