พระคงคานี้ ตาม พระเวท ว่าเป็นธิดาองค์แรกของพระหิมวัต หรือหิมพานต์กับนางเมนา และเป็นเชษฐภคินีของพระอุมา พระสวามีของพระคงคาก็คือพระศิวะ(อิศวร) ฉะนั้น พระคงคากับพระอุมาจึงเป็นผู้ร่วมชนก ชนนีและสวามีองค์เดียวกัน

พระคงคามีนามเป็นอันมาก แต่ที่ใช้อยู่บ่อยๆนั้น เรียกตามเรื่องที่มีขึ้นเช่น ชาหนวี ภาคีรถี สาคร บางตำรับเรียกว่า พระตรีเวณี

ตามรูปที่เขียนมาจากอินเดีย เขียนเป็นรูปนางงาม มีสามเศียร ทุกเศียรมีรัดเกล้าน้อยๆ มีกรหกกร บางทีถือคัมภีร์บ้าง ดอกบัวบ้าง นั่งบนหลังปลาเป็นพาหนะ สีกายขาว มีรัศมีขาว

พระคงคานี้ แต่เดิมถือกันว่ามีอยู่แต่บนสวรรค์เท่านั้น เพิ่งจะลงมาสู่มนุษยโลกในครั้งที่ท้าวภคีรถสำเร็จการพิธีอัญเชิญเท่านั้น ดังมีเรื่องกำเนิดพระคงคาพอจะเล่าย่อๆให้ฟัง คือ ในครั้งต้นกฤดายุค กุมารหกหมื่นของท้าวสัคระ (กษัตริย์สุริยวงศ์ครองนครอโยธยา) ต้องตายโดยฤทธิ์ของพระกบิล (นารายณ์แปลง) เมื่อคราวไปตามม้าสำคัญของท้าวสัคระ จำเป็นที่จะต้องชำระด้วยน้ำพระคงคา จึงจะพ้นบาปไปสวรรค์ได้ ท้าวสัคระจึงตั้งพิธีอัญเชิญแม่พระคงคา แต่ไม่เป็นผลสมความปรารถนา ท้าวสัคระก็หาได้ละความเพียรไม่ ได้กระทำพิธีนั้นอยู่จนสิ้นพระชนมชีพ ทายาทคือท้าวอังศุมัตผู้เป็นหลานท้าวสัคระ และท้าวทิลีปะผู้เป็นเหลน จนถึงท้าวภคีรถผู้เป็นลื่อของท้าวสัคระก็ได้รับทำพิธีอัญเชิญแม่พระคงคาต่อๆกันมา เพิ่งสำเร็จความปรารถนาเมื่อตอนท้าวภคีรถ

แม่พระคงคาจึงได้มาสู่ยังมนุษยโลกโดยหลงไหลไปทางสระวินทุ แล้วแยกออกเป็นเจ็ดสาขา ไหลไปทางตะวันออกสามสาขา คือ แม่น้ำนลินี แม่น้ำหลาทินี แม่น้ำปาพนี ส่วนทางตะวันตกนั้นไหลไปเป็นแม่น้ำจักษุ แม่น้ำสีดา แม่น้ำสินธุ รวมสามสาขา สายกลางนั้นไหลตามรอยรถท้าวภคีรถที่เรียกกันว่าลำแม่พระคงคามหานที นับว่าเป็นแม่น้ำที่ศักดิ์สิทธิ์ใช้ล้างบาปได้ นิยมกันว่า ต้นน้ำไหลลงมาจากสวรรค์

เมื่อพระคงคาได้ไหลไปชำระอัฐิกุมารของท้าวสัคระแล้ว กุมารทั้งหกหมื่นก็ได้ไปสู่สวรรค์ ส่วนแอ่งน้ำที่ไปรวมอยู่เป็นอันมากนั้นมีนามว่าสาคร(มหาสมุทร)

อันเทวดาที่เกี่ยวแก่น้ำหรือทะเลนี้ ทางลัทธิชินโตของญี่ปุ่นกล่าวว่าเจ้าพ่ออิซานางิ โนมิโกโตะ ได้ทรงเอาน้ำมาล้างพระนาสิก ก็บันดาลให้เกิดเป็นองค์ซุซาโนะ โนมิโกโตะ เจ้าพ่อโปรดมาก จึงทรงตั้งให้เป็นเทพเจ้าแห่งมหาสมุทรและทะเล ซึ่งหน้าที่อย่างนี้ ทางลัทธิพราหมณ์เขามอบไว้ในแม่พระคงคาซึ่งเป็นสตรีเพศ แต่ทางลัทธิของญี่ปุ่นเขาว่าเป็นบุรุษเพศ นัยว่าเป็นผู้ซุกซนมาก คือมีความคะนองตีฟองครื้นเครงอยู่เป็นนิจ ซึ่งอาจเป็นอันตรายแก่ปวงมนุษย์ผู้ที่มีกิจธุระทางทะเล

ครั้งหนึ่งที่เทพเจ้าแห่งทะเล (ซุซาโนะ) จะต้องจากแดนสวรรค์มาสู่มนุษยโลกนั้น มีเรื่องเล่าย่อๆว่า เธอไปเยี่ยมเจ้าแม่สุริยะซึ่งนับว่าเป็นพี่บนวิมาน นัยว่าได้พัดพาเอาซากม้าเน่าลอยเข้าไปถึงเฉพาะหน้าเจ้าแม่สุริยะ เจ้าแม่สุริยะกริ้ว เจ้าแม่สุริยะหรือทนความเหม็นไม่ได้ จึงเข้าวิมานปิดประตูลั่นดานหมด เป็นเหตุให้โลกไม่มีแสงตะวันส่อง เกิดเดือดร้อนกันทั่วไปภายหลังจึงต้องตั้งพิธีพลีกรรมกันขนานใหญ่ เจ้าแม่สุริยะจึงเปิดวิมานส่องแสงสว่างมายังโลกตามเดิม ส่วนเทพเจ้าทั้งหลายจึงลงทัณฑ์แก่ซุซาโนะหลายอย่าง แล้วก็ขับจากสวรรค์ลงมาอยู่ที่ตำบลโตริกามิ ว่าอยู่ทางต้นน้ำฮโนกาวาแห่งมณฑลอิซุโมในทุกวันนี้

ต่อมาซุซาโนะได้กับนางคุชานาดะ ฮิเม แล้วฆ่ามังกรแปดหัวแปดหางตาย ได้ดาบวิเศษในท้องมังกรหนึ่งเล่ม แล้วสร้างวังที่อยู่ในมณฑลอิซุโมเกิดบุตรธิดาสืบสกุลวงศ์โอกุนินุชิต่อๆมา